Search This Blog Below

Showing posts with label วิธีเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง. Show all posts
Showing posts with label วิธีเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง. Show all posts

Friday, January 15, 2010

วิธีเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง

วิธีเลือกซื้อมอเตอร์ไซค์มือสอง

เศรษฐกิจ ตกสะเก็ดอย่างนี้ จะถอยรถป้ายแดงกันก็สาหัสหน่อยนะครับ ราคารถแมงกะไซค์ที่ ผลิตกันในบ้านเรานับวันก็แพงเอาแพงเอา บรรดาสิงห์นักบิดทั้งหลาย เบี้ยน้อยหอยใหญ่… เอ๊ย… หอยน้อย! จึงพร้อมใจกันหันมาจับรถมือสองกันเป็นแถว ซึ่งของพรรค์นี้เขาว่ากันว่า ตาดีได้ ตาร้ายเสีย! เพราะอย่างนั้น กระผมจึงมาเผยไต๋แบบคนตาดี ที่ซื้อรถมือสองเป็น ซึ่งมันมีกลเม็ดอย่างนี้ครับ…

ก่อนอื่นต้องเสาะหาร้านค้าที่เชื่อ ถือได้ เพราะเต้นท์มันเยอะเหลือเกิน แล้วอย่าลืมพาคนที่เขารู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกไปด้วย จะได้ไม่ถูกเขาหลอก!

จากนั้นก็มาดูกันที่รูปกายภายนอกของรถว่า ทุกชิ้นส่วนครบอาการ 32 อย่างดีหรือเปล่า โช้คอัพ จะต้องมีระยะยุบตัวที่ดีทั้งหน้าหลัง เวลายุบตัวต้องไม่มีเสียงดัง และต้องคืนสภาพเดิมได้เป็นปกติ นอกจากนี้ต้องไม่มีร่องรอยรั่วซึมด้วยนะครับ

ขอบวงล้อ ไม่ว่าล้อแม็กอัลลอย หรือซี่ลวด ต้องไม่มีร่องรอยผ่านศึกมา เช่น คดงอหรือแตกร้าว ถ้าเป็นซี่ลวดก็ต้องไม่ขดงอหรือมีเส้นใดเส้นหนึ่งขาดหายไป ถ้าเป็นรถแบบมี "แฟริ่ง" ต้องตรวจดูว่ามีร่องรอยการล้มหรือชนรุนแรงมาหรือเปล่า

ระบบเบรก ถ้าเป็นดิสค์เบรกต้องดูว่าใช้งานมามากน้อยแค่ไหน จานเบรกมีร่องรอยสึกหรอมากน้อยเพียงใด เวลาเบรกต้องงานได้ดีทั้งหน้าหลัง

ระบบไฟ ตรวจดูไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณทุกดวงต้องใช้งานได้เป็นปกติ

เครื่องยนต์ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถรื้อมาดูสภาพข้างในได้ จึงต้องดูกันด้วยตาจากภายนอก และใช้หูเงี่ยฟังเสียงเครื่องยนต์เอาเอง หลักการก็คือ สภาพภายนอกของเครื่องยนต์นั้น หัวน็อตต่างๆต้องไม่มีร่องรอยที่ส่อถึงการรื้อการถอด และจะต้องไม่มีคราบหรือร่องรอยการรั่วซึมของน้ำมันเครื่องในจุดต่างๆ เช่น ห้องแคร้งค์ เสื้อสูบ ฝาสูบ หลังจากติดเครื่องยนต์แล้ว ขณะจอดต้องไม่มีน้ำมันเครื่องหยดบนพื้น จากนั้นให้ลองสตาร์ทเครื่องดู ถ้าได้ยินเสียงดังผิดปกติ ก็มีแววว่าเครื่องยนต์จะพังได้ในไม่ช้า เครื่องยนต์ที่ดีต้องเดินเรียบ เงียบ และไม่กระตุก

ขั้นสุดท้ายให้ลองขับขี่ดูการทรงตัว ว่าสมบูรณ์ดีเพียงใด ต้องไม่เป๋ไปเป๋มา ซึ่งแสดงว่าเคยชนมาจนเสียศูนย์ ถ้าซื้อมาใช้รายต่อไปอาจเป็นคุณ!

และนั่นก็เป็นกลเม็ดการเลือกซื้อรถมือสองแบบซีซีธรรมดาทั่วไป แต่ถ้าเป็น "รถใหญ่" หรือซีซีสูงๆ การเลือกซื้อก็มีเคล็ดลับเฉพาะที่จะกระซิบบอก ต่อไปนี้

เริ่มต้นด้วยการไปเสาะดูแคตาล็อคของ พวกรถใหญ่ เพื่อดูรุ่นที่ชอบ จากนั้นค่อยไปดูที่ร้านว่ามีรุ่นที่อยากได้นั้นหรือไม่ - เมื่อเจอรุ่นที่ต้องการแล้ว ก่อนอื่นเลยให้ดูว่าสีมันตรงกับแคตตาล็อครุ่นที่ดูมาหรือไม่ เพราะมันอาจชนแล้วย้อมแมวทำสีใหม่ซึ่งจะเพี้ยนไปจากสีดั้งเดิมของมัน

ระบบโช้คอัพหน้าและกันสะเทือนต้องมี ระยะยุบตัวที่เท่ากัน และคืนตัวได้เป็นอย่างดี ไม่มีเสียงดัง ไม่คดงอ รวมทั้งรอยรั่วซึมจากแกนโช้คอัพ - ต่อไปที่ดูได้จกภายนอกก็คือ วงล้อซึ่งจะเป็นล้อแม็กหรือซี่ลวดก็แล้วแต่ ต้องรู้ให้แน่ว่ารุ่นที่ต้องการนั้นเป็นวงล้อแบบไหน ลายไหน จะต้องให้ตรงรุ่นกัน บริเวณขอบวงล้อจะต้องไม่มีร่องรอยถูกกระแทก รอยแตกต้าว หรือคดงอ ให้ดูง่ายๆโดยใช้มือหมุนวงล้อดูว่ามีอาการแกว่งหรือไม่

ยางที่ติดมากับวงล้อ ให้ดูลายดอกยางว่าสึกจนดอกยางเหลือน้อยหรือไม่ และดูจานเบรกด้วยว่ามีรอยสึกมากน้อยแค่ไหน ผ้าเบรกเหลือน้อยเพียงใด

ระบบไฟต่างๆ เช่น ไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณต่างๆ ต้องใช้งานได้เป็นปกติ แบตเตอรี่ยังเก็บไฟได้ดีพอหรือไม่เพียงใด

ต่อไปที่สำคัญมากก็คือ เครื่องยนต์ของรถที่มีซีซีสูง ให้เริ่มจากการตรวจดูรอยรั่วซึม ทั้งในส่วนของแคร้งค์ ตีนเสื้อสูบ ฝาสูบ ฝาครอบวาล์ว รวมทั้งรอยหยดของน้ำมันบนพื้นที่รถจอดอยู่ เมื่อสตาร์ทเครื่องให้ฟังเสียงดูว่าดังผิดปกติหรือไม่ เมื่อกดสตาร์ทเครื่องต้องติดง่าย เครื่องยนต์เดินครบทุกสูบ ในรอบเดินเบาของเครื่องต้องอยู่ระหว่าง 500-1500 รอบ/นาที

คาร์บูเรเตอร์เป็นอีกส่วนที่ต้อง ตรวจดูว่า ชุดคาร์บูเรเตอร์มีร่องรอยการแก้ไขปรับแต่งจนเห็นได้จากภายนอกหรือไม่ ท่อไอเสียหากเป็นของเดิมจะอยู่ในสภาพที่ไม่ผุกร่อนมาก

เมื่อตรวจดูส่วนต่างๆจนเป็นที่พอใจ แล้ว ให้ลองขับขี่ดูถึงสมรรถนะการควบคุม ตลอดจนอาการต่างๆ ที่จะแสดงออกมาให้เห็น จึงควรเริ่มจากความเร็วต่ำไปจนความเร็วสูงขึ้น ดูว่ากำลังเครื่องยังดีหรือไม่ หากมีอาการขืนในระดับความเร็วพอประมาณ หรือเบรกแล้วเกิดอาการแฉลบซ้ายขวา ส่วนมากมีสาเหตุมาจากโครงสร้างเฟรมที่คดงอจากการชนหรือกระแทกอย่างแรงมาก่อน แต่หากไม่มีที่ว่ามานี้ ก็ขึ้นกับท่านแล้วล่ะว่า สภาพรถ เมื่อเทียบกับตังค์ในกระเป๋าแล้ว อยากจะซื้อหรือไม่!

กลเม็ดการเลือกซื้อรถแมงกะไซค์มือสองที่สาธยายมาทั้งหมดนี้… ไม่ว่าจะเป็นรถใหญ่ รถเล็ก ลักษณะการตรวจเช็คความพร้อม ความสมบูรณ์ของตัวรถ และส่วนต่างๆมักจะใกล้เคียงกัน แต่ความละเอียดในการเลือกซื้อนั้น รถใหญ่จะมีมากกว่า เพราะหากผิดพลาดไปแล้ว ค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถใหญ่จะสูงกว่ามาก หรืออาจหาอะไหล่มาเปลี่ยนไม่ได้ เพราะฉะนั้น ท่านจึงจำเป็นต้อง "ตาดี" อยู่สักหน่อย จะได้ไม่ถูกร้านค้าเขาหลอกเอา และถ้าหากไม่ไม่แน่ใจว่ามีความรอบรู้ดีพอ กระผมว่า ชวนเพื่อนพ้องที่เขามีประสบการณ์ไปช่วยกันดูช่วยกันตรวจสอบน่าจะเป็นการดี ที่สุด… เพื่อท่านจะได้รถมือสองที่สมบูรณ์มากที่สุด บกพร่องน้อยที่สุดไงครับ

http://www.mocyc.com/study/view.php?category=5&idstudy=9
http://www.kadnad.com/